สำหรับเปลือกแคปซูลแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ แบบแข็ง และ แบบนิ่ม ทั้งสองชนิดนี้มีความแตกต่างกันที่วิธีผลิต โดยแคปซูลชนิดแข็งมีส่วนประกอบ 2 ส่วน คือ ตัวแคปซูลและฝาปิด เมื่อบรรจุยาแล้วถึงนำมาเชื่อมต่อกัน พบมากในประเภทยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ สีสันจี๊ดจ๊าดทั้งหลายนั่นล่ะค่ะ) ส่วนแคปซูลแบบนิ่ม เวลาผลิตจะผลิตเปลือกและบรรจุยาไปพร้อมกัน ใช้ในกรณีที่ตัวยาไวต่ออากาศและแสงอย่างมาก เช่น พวกน้ำมันตับปลาและวิตามินต่าง ๆ (แคปซูลแบบนี้จะไม่สามารถแกะออกมาได้เหมือนแคปซูลชนิดแข็งนะคะ) ซึ่งตามมาตรฐานแล้วมีอยู่ 8 ขนาดแล้วทำไมต้องมีแคปซูล ในเมื่อมียาเม็ดอยู่แล้ว? ... สังเกตดูดีๆ สิคะนาแคปซูลส่วนใหญ่จะมีสีสันสดใสและหลากหลาย ก็เพื่อสร้างความแต่ต่างให้ผู้บริโภคสามารถระบุเอกลักษณ์ของยาได้ จึงมีประโยชน์มากในการแยกชนิดของยาโดยการจดจำสี ซึ่งยาทั่วไปมีข้อจำกัดไม่สามารถทำได้ อีกทั้งกระบวนการผลิดยาแคปซูลนั้นสั้นและง่ายกว่ายาเม็ดเพราะไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องของแรงอัดและความร้อนที่จะต้องใช้ในการผลิด ไม่เพียงแค่นั้น ปอกหรือเปลือกของแคปซูลยังช่วยการการกลบกลิ่นและรสขมๆ ของตัวยาบางชนิดได้เป็นอย่างดี แต่แคปซูลนั้นจะเหมาะกับการบรรจุยาที่ไม่ทนต่อความร้อนเท่านั้น
จะว่าไปแล้วปลอกหรือเปลือกของแคปซูลนั้นก็เหมือนพาหนะที่จะนำเอาตัวยาไปส่งที่ลำไส้เล็กเพื่อที่ร่างกายจะได้ดูดซึมตัวยาไปใช้งาน ... อ๋อ ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง เจ้าแคปซูลนี่ก็มีข้อดีอยู่เยอะแยะเหมือนกันนะคะเนี่ย ^^
น้องๆ เคยสงสัยเหมือนพี่เหมี่ยวรึเปล่าคะว่า เจ้าแคปซูลหน้าตาละม้ายคล้ายพลาสติกนั้น มันทำมาจากอะไร แล้วทำไมเราถึงกินเข้าไปได้โดยที่ไม่มีอันตราย ... วันนี้เราไปหาคำตอบพร้อมๆ กันดีกว่าค่ะ
... แคปซูล จะประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือส่วนของตัวยา และเปลือกหรือปลอกแคปซูลที่ใช้บรรจุยา ซึ่งเปลือกหรือปลอกแคปซูลนั้นส่วนใหญ่แล้วทำมาจากเจลาตินและน้ำค่ะ โดยวิธีการผลิตนั้นทำโดยการแปรรูปคอลลาเจนที่มีอยู่ในผิวหนังและกระดูกสัตว์ เช่น วัว หมู โดยเปลือกนี้จะสามารถละลายได้ที่อุณหภูมิของร่างกายของเราค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น